เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 คณะรัฐมนตรี (ครม.)
อนุมัติมาตรการดูแลและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย
ซึ่งหนึ่งในมาตรการดังกล่าวเป็นการบรรเทาและแบ่งเบาภาระของประชาชน
คือการอนุมัติสิทธิลดหย่อนภาษีจากค่าเบี้ยประกันสุขภาพจากเดิม 15,000 บาทเพิ่มเป็น 25,000 บาท โดยมีผลตั้งแต่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2563
นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย
เปิดเผยว่า จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และมีแนวโน้มว่าจะยังไม่ยุติง่ายๆ
ส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งต่อเศรษฐกิจ และระบบสาธารณสุข
ยังความตื่นตัวให้กับประชาชนต่อการดูแลตนเอง โดยหลีกเลี่ยงชุมชน งดออกจากที่พักอาศัยโดยไม่จำเป็น
กินร้อน แยกชุดช้อนส้อมและภาชนะส่วนตัว สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน รวมถึงล้างมือบ่อยๆ
ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ และที่สำคัญ ณ
ขณะนี้ คือการบริหารค่าใช้จ่ายและภาระต่างๆ ทางการเงิน
เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบระยะยาวต่อตนเองและครอบครัว
สำหรับการประกันชีวิตและการประกันสุขภาพในสถานการณ์ปัจจุบันถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการบริหารความเสี่ยงทางการเงิน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 คณะรัฐมนตรี (ครม.)
อนุมัติมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจให้กับประชาชน โดยหนึ่งในมาตรการนั้นคือการส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยมีประกันชีวิตและประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากสวัสดิการขั้นพื้นฐาน
เช่น ประกันสังคมและสิทธิหลักประกันสุขภาพ 30 บาท
ด้วยการเพิ่มวงเงินหักลดหย่อนภาษี
จากค่าเบี้ยประกันสุขภาพจากเดิมตามจ่ายจริงไม่เกิน 15,000 บาท เป็นไม่เกิน 25,000 บาท
และเมื่อรวมกับการหักลดหย่อนค่าเบี้ยประกันชีวิต
และเงินฝากประเภทสงเคราะห์ชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
ซึ่งมาตรการดังกล่าวนับว่าเป็นผลดีกับประชาชนเพราะเป็นการส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ประชาชนวางแผนดูแลสุขภาพกันมากขึ้น
รวมถึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐต่อสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล
สำหรับผู้ที่ซื้อประกันสุขภาพตั้งแต่มี 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2563 สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในปี 2564
ทั้งนี้
ประกันสุขภาพเป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่ตอนที่ร่างกายยังแข็งแรงสมบูรณ์
เพราะประกันสุขภาพจะไม่คุ้มครองกรณีที่ป่วยเป็นโรคใดโรคหนึ่งมาก่อนหรือเป็นโรคที่ยังรักษาไม่หายขาด
แต่สำหรับกรณีของคนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วอยากจะทำประกันสุขภาพ
อาจทำได้แต่บริษัทประกันอาจแจ้งข้อเสนอใหม่ให้กับผู้ขอทำประกัน เช่น
บริษัทอนุมัติแต่เบี้ยประกันสูงกว่าคนที่ไม่มีโรคประจำตัว
หรือบริษัทอนุมัติแต่ขอยกเว้นเฉพาะโรคที่ผู้ขอทำประกันเป็นอยู่
ดังนั้นผู้เอาประกันจะต้องเปิดเผยข้อมูลสุขภาพตามจริงให้กับบริษัทประกัน
หากตั้งใจปกปิดหรือบริษัทประกันสืบทราบเองในภายหลังอนุมัติความคุ้มครองไปแล้ว
บริษัทประกันมีสิทธิ์ไม่จ่ายเงินค่าชดเชยค่ารักษาพยาบาลได้
ไปจนถึงการยกเลิกสัญญาประกันสุขภาพฉบับนั้นด้วย ดังนั้น
ทุกครั้งก่อนทำประกันสุขภาพโปรดอ่านรายละเอียดและทำความเข้าใจเงื่อนไขความคุ้มครอง
รวมถึงข้อยกเว้นต่าง ๆ ของแต่ละสัญญาให้ครบถ้วน พร้อมทั้งแถลงข้อมูลตามความจริง
เพื่อให้การใช้สิทธิ์ทุกสิทธิ์ของท่านเป็นไปตามความต้องการด้วยความสะดวกและรวดเร็ว
สำหรับท่านที่ตัดสินใจทำประกันสุขภาพไปแล้ว
อย่าลืมแจ้งความประสงค์ที่จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินจากเบี้ยประกันสุขภาพต่อบริษัทประกันชีวิตที่ได้ซื้อประกันสุขภาพไว้ตามแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนด
นายกสมาคมฯ กล่าวเพิ่มเติม