โค้งสุดท้ายของทุกๆปีถือเป็นช่วงเวลาของการวางแผนทางการเงินและมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดหย่อนภาษี
ซึ่งผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและสามารถตอบโจทย์ความต้องการทั้งในเรื่องให้ความคุ้มครอง
และการออมเงินอย่างมีวินัย ตลอดจนการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน
รวมทั้งสิทธิประโยชน์ในเรื่องของการลดหย่อนภาษีได้เป็นอย่างดี
นายพิชา
สิริโยธิน ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า สำหรับประชาชนที่กำลังวางแผนภาษีในช่วงปลายปีและกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มาตอบโจทย์เรื่องการลดหย่อนภาษี
สมาคมประกันชีวิตไทยขอแนะนำว่า ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ รวมถึงประกันแบบบำนาญจะทำให้ท่านมีทั้งเครื่องมือช่วยบริหารความเสี่ยงทางด้านการเงิน
เป็นทั้งการออมและมีความคุ้มครองทั้งชีวิตและสุขภาพในเวลาเดียวกัน รวมทั้งยังสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระในรอบปีสำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีกำหนดระยะเวลาคุ้มครอง
ตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป มาลดหย่อนภาษีเงินได้สูงสุดถึง 100,000 บาท และสำหรับท่านที่มีประกันสุขภาพยังสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพตามจำนวนที่จ่ายจริงมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้ไม่เกิน
25,000 บาท แต่เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนผู้ที่มีประกันชีวิตแบบบำนาญจะสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญนั้นที่ชำระไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง
200,000 บาท ทั้งนี้ เงื่อนไขการหักลดหย่อนภาษีจะต้องเป็นไปตามประกาศกรมสรรพากร
สำหรับประชาชนที่มีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต
ประกันบำนาญ ประกันสุขภาพอยู่แล้ว โปรดอย่าลืมแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันภัยไปยังบริษัทประกันชีวิตที่ท่านทำประกันชีวิตไว้ด้วย
เพื่อเป็นการแสดงความยินยอมให้บริษัทนำส่งข้อมูลการชำระเบี้ยประกันภัยให้กับกรมสรรพากรตามแนวทางที่กรมสรรพากรกำหนด
มิเช่นนั้นผู้เอาประกันภัยจะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันภัยฉบับนั้นได้